แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสินค้าเกี่ยวกับความสวยความงามมากมาย หลากหลายแบรนด์ หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบครีมบำรุงผิว ซีรั่ม เจล โลชั่น หรือรูปแบบน้ำตบเอสเซ้นส์ สำหรับใช้กับทั้งผิวหน้าและผิวกาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสวยรักงามทุกกลุ่ม แต่เทรนด์เกี่ยวกับความงามและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เป็นประจำทุกปี วันนี้เราพามาอัพเดตเทรนด์สินค้ากลุ่มสกินแคร์ที่น่าจับตามองและคาดการณ์ว่าจะได้รับความนิยมในปี 2023 กันค่ะ

Clean Beauty Trend

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญไม่แพ้การดูแลผิวพรรณของตัวเอง ดังนั้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่รักสวยรักงามแล้วยังรักโลก จะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตราย โดยหันมาบริโภคเครื่องสำอางกลุ่มที่เป็น Clean Beauty แทน โดยทั่วไปจะใช้สารออกฤทธิ์ที่มาจากธรรมชาติเป็นหลักเพราะนอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวในระยะยาวแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ครีมอาบน้ำที่ไม่มีส่วนผสมของ SLS และ Paraben หรือครีมกันแดดที่ไม่ทำร้ายปะการังสำหรับสายเที่ยวทะเล เป็นต้น

นอกจากการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์แล้วให้เข้ากับ Clean Beauty Concept แล้ว เรื่องบรรจุภัณฑ์ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน หลายแบรนด์จึงเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่รักโลก ลดปริมาณการใช้พลาสติก ไม่เป็นพิษ ย่อยสลายง่าย หรือสามารถใช้ซ้ำได้ (Refill) เพื่อลดปริมาณขยะให้น้อยลงมากที่สุด

Skinimalism Trend

การบำรุงผิวแบบ Skinimalism ยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การลดขั้นตอนการบำรุงผิวที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ให้ครบจบในการใช้งานครั้งเดียวผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Multitasking หรือผลิตภัณฑ์ชนิด All-in-One โดยรวมสรรพคุณต่าง ๆ ไว้ในขวดเดียว เช่น ซีรั่มช่วยลดการเกิดสิว ในขณะเดียวกันก็มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว และช่วยให้ผิวกระจ่างใส หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ใช่แค่ล้างทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยกระชับรูขุมขน เติมน้ำให้ผิว บำรุงผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการทาครีมบำรุงผิวหลายขั้นตอน ทำให้ชีวิตสะดวกและง่ายขึ้น ประหยัดเวลา เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของผู้บริโภคในปัจจุบัน ส่วนเรื่องของการแต่งหน้าหรือการลง Make Up จะไม่เน้นการปกปิดสักเท่าไหร่ แต่เน้นเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาเพียงแค่เติมสีสันและความโกลว์ให้ผิวหน้าดูมีสุขภาพดีในแบบฉบับของตัวเอง เพราะหัวใจสำคัญของ Skinimalism คือการเลือกที่จะรักตัวเองให้มากขึ้นและพร้อมแสดงตัวตนตามธรรมชาติของคุณในแบบที่คุณเป็น

Microbiome Trend

ไมโครไบโอม หรือ microbiome คือจุลินทรีย์ธรรมชาติที่พบอยู่บนผิวสุขภาพดี โดยเฉพาะใน ‘ผิวเด็ก’ เพราะความจริงแล้วไมโครไบโอมมีอยู่กับผิวมนุษย์มาตั้งแต่เกิดแต่จะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงและเสียสมดุลไปตามกาลเวลา หากสังเกตผิวของเด็ก ก่อนฮอร์โมนจะทำให้ผิวเริ่มเปลี่ยนไป ในตอนนั้นจะยังไม่มีสิว หรือหากมีสิวหรือแผลระคายเคืองใด ๆ ก็ จะหายอย่างรวดเร็ว แถมยังไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ซึ่งเป็นเพราะไมโครไบโอมบนผิวหน้านั่นเอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไมโครไบโอมเสียสมดุลได้ มีหลากหลายสาเหตุ ได้แก่ สภาพอากาศ รังสียูวี มลภาวะ ควันพิษ การรับประทานอาหารประเภทไขมันหรือโซเดียมมากเกินไป การรับยาปฏิชีวนะที่มากเกินไป การล้างหน้าที่ไม่สะอาดหรือสะอาดจนเกินไป รวมถึงประเภทของผิวแต่ละคนกับสิ่งเร้าที่มากระทบด้วย และผลของการเสียสมดุลไมโครไบโอมก็คือ ผิวอ่อนแอ อักเสบง่าย ฟื้นตัวยาก นำมาซึ่งริ้วรอยแห่งวัย และปัญหาผิวอีกมากมาย ดังนั้นต่อให้บำรุงเซลล์ผิวเต็มที่แค่ไหน แต่ไมโครไบโอมไม่สมดุล ก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่ครบถ้วนอยู่ดี

การเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนช่วยในการดูแลรักษาสมดุลของไมโครไบโอมจึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจกันมากขึ้น โดยไมโครไบโอมที่สำคัญต่อผิวหน้านี้ จะประกอบไปด้วยพรีไบโอติกและโพรไบโอติก ซึ่งโพรไบโอติกคือจุลินทรีย์ที่ดี ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โพรไบโอติกเจริญเติบโตได้ก็คือพรีไบโอติกที่เป็นอาหารสำคัญของโพรไบโอติก ทั้งนี้เราสามารถเติมทั้งพรีไบโอติก และโพรไบโอติกที่ผิวชั้นนอกได้โดยตรง ผ่านการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของทั้ง 2 อย่างนี้ เมื่อทั้งสองส่วนทำงานร่วมกันผิวก็จะยิ่งแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของผิว ลดรอยดำ รอยแดง และลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ลง             

Waterless Beauty Trend

Waterless Beauty คือ นวัตกรรมการผลิตสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง โดยใช้น้ำน้อยที่สุดหรือไม่ใช้เลย โดยจะมีข้อดีมากมาย ได้แก่

น้ำหนักเบา สะดวกในการขนส่ง และพกพาง่าย

เนื่องจากเครื่องสำอางที่มีการใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลัก จะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก พกพายาก โดยเฉพาะเวลาที่จะนำขึ้นเครื่องบิน จะมีจำกัดปริมาณของเหลวที่พกพาขึ้นเครื่องบิน อีกทั้งยังต้องระวังเรื่องการหก หรือรั่วซึม ปัญหานี้จะหมดไป หากเราเลือกใช้เครื่องสำอางแบบแห้ง

อายุการใช้งานยาวนานขึ้น

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย รา และยีสต์ ซึ่งการที่เราใช้น้ำน้อยลงหรือไม่ใช้เลยจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้เจริญเติบโตได้ช้าลง เครื่องสำอางนั้นก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งจะตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการให้ใส่การกันเสียหรือต้องการให้ใส่ในปริมาณเพียงเล็กน้อย  

มีความเข้มข้นสูง

เครื่องสำอางกลุ่มสกินแคร์ทั่วไปมักมีน้ำเป็นองค์ประกอบประมาณ 75-95 % นั่นหมายความว่า สารที่เป็นตัวออกฤทธิ์จะถูกเจือจางลง ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำน้อย หรือไม่มีน้ำเลยจะมีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์มากกว่า ทำให้มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวมากกว่า ทั้งนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมากเกินไป อาจจะทำให้ผิวแห้งและกำจัดน้ำมันบนผิวของคุณออกไป

ลดขนาดบรรจุภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์แบบ waterless นั้นส่วนมากจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้ขนาดบรรจุภัณฑ์มีขนาดเล็กลงและลดปริมาณการใช้พลาสติกลงหรือกระดาษที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ลงได้ ทำให้ประหยัดต้นทุน ค่าขนส่ง ลดพื้นที่การจัดเก็บได้มากขึ้นด้วย

ลดปริมาณการใช้น้ำสูง

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมีการปล่อยน้ำเสียจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ และครัวเรือนเป็นจำวนวนมาก ปริมาณน้ำสะอาดที่สามารถใช้ได้บนโลกใบนี้นั้นเข้าสู่ช่วงวิกฤต ดังนั้นจึงมีการรณรงค์ในให้ผู้คนใช้น้ำอย่างประหยัดมากขึ้น อุตสาหกรรมความงามที่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลักถึง 75-95 % ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำน้อยลงหรือไม่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมมากขึ้น เพื่อลดการใช้น้ำลง ลดการปล่อยน้ำเสีย และเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

สนับสนุนข้อมูลโดย บริษัท สกินเน็กซ์ จำกัด

ผู้ผลิต สร้างแบรนด์เครื่องสำอางครบวงจร

https://www.skinnex.com/

ที่มา : ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบ
เว็บไซต์ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวประชาสัมพันธ์.com และ ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ฟรี prnewsthailand.com