รู้จัก 10 ประเภทของเซรั่ม ก่อนผลิตเซรั่มแบรนด์ตัวเอง

ประเภทของเซรั่ม

ตลาดเซรั่มบำรุงผิวมีการแข่งขันที่สูงมาก การสร้างผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุดคือหัวใจของความสำเร็จ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจสร้างแบรนด์เซรั่มของตัวเอง การทำความเข้าใจประเภทของเซรั่มที่มีในท้องตลาดจะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและเลือกทิศทางของผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาไปรู้จักเซรั่ม 10 ประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช่สำหรับแบรนด์ของคุณ

10 ประเภทเซรั่มยอดนิยมที่เจ้าของแบรนด์ควรรู้

ประเภทของเซรั่ม

เซรั่มแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน การเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนจะช่วยให้การสื่อสารการตลาดและการพัฒนาสูตรของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใส (Brightening Serum)

เซรั่มกลุ่มนี้คือดาวเด่นของตลาดเอเชีย ออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยสิว และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอโดยเฉพาะ กลไกหลักคือการเข้าไปยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากเกินไปและช่วยปรับโทนสีผิวโดยรวมให้ดูสว่างสดใสขึ้น นับเป็นเซรั่มพื้นฐานที่แบรนด์ส่วนใหญ่ต้องมีติดพอร์ตโฟลิโอ

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : วิตามินซี (Vitamin C), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), อาร์บูติน (Arbutin), กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid)

2. เซรั่มลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging Serum)

มุ่งเน้นไปที่การจัดการสัญญาณแห่งวัยโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยร่องตื้นหรือร่องลึก รวมถึงปัญหาผิวขาดความกระชับและหย่อนคล้อย เซรั่มประเภทนี้จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว พร้อมทั้งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้น

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : เรตินอล (Retinol), บากูชิออล (Bakuchiol), เปปไทด์ (Peptides), โคเอนไซม์ คิวเทน (CoQ10)

3. เซรั่มเติมความชุ่มชื้น (Hydrating Serum)

หัวใจสำคัญของการมีผิวสุขภาพดีคือความชุ่มชื้น เซรั่มประเภทนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนแม่เหล็กดูดน้ำเข้าสู่ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ยาวนาน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งขาดน้ำที่มักจะลอกเป็นขุยและดูไม่สดใส การมีผิวที่ชุ่มชื้นจะช่วยให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงและลดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid), กลีเซอรีน (Glycerin), เซราไมด์ (Ceramides), วิตามินบี 5 (Panthenol)

4. เซรั่มสำหรับคนเป็นสิว (Anti-Acne Serum)

ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือสิวผด โดยจะเน้นการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C.acnes, ควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า, และช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบตัวเร็วขึ้นและป้องกันการเกิดสิวใหม่

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid - BHA), ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil), ซิงค์ (Zinc PCA), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)

5. เซรั่มผลัดเซลล์ผิว (Exfoliating Serum)

ประเภทของเซรั่ม

ทำหน้าที่เร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไปอย่างอ่อนโยน เพื่อเผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระจ่างใสกว่าเดิม ช่วยลดปัญหาผิวหยาบกร้าน, สีผิวไม่สม่ำเสมอ, และลดการอุดตันในรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อ่อนโยนกว่าการสครับผิวหน้าโดยตรง

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid - AHA), กรดแลคติก (Lactic Acid - AHA), PHA, เอนไซม์จากผลไม้ (Fruit Enzymes)

6. เซรั่มฟื้นฟูและปลอบประโลมผิว (Soothing & Repairing Serum)

กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ มุ่งเน้นไปที่การลดอาการระคายเคือง, รอยแดง, และอาการคัน พร้อมทั้งเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้แข็งแรงขึ้น เมื่อเกราะป้องกันผิวแข็งแรง ผิวก็จะไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่างๆ น้อยลงและมีสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : ใบบัวบก (Cica), ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera), คาโมมายล์ (Chamomile), เซราไมด์ (Ceramides)

7. เซรั่มต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Serum)

ในแต่ละวันผิวของเราต้องเผชิญกับมลภาวะ ฝุ่นควัน และรังสียูวี ซึ่งเป็นตัวการสร้างสารอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพก่อนวัย เซรั่มกลุ่มนี้ทำหน้าที่เหมือน "เกราะป้องกัน" เข้าไปต่อต้านสารอนุมูลอิสระเหล่านั้น ช่วยปกป้องผิวและชะลอการเกิดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : วิตามินซี (Vitamin C), วิตามินอี (Vitamin E), กรดเฟอรูลิก (Ferulic Acid), เรสเวอราทรอล (Resveratrol)

8. เซรั่มกระชับรูขุมขน (Pore-Minimizing Serum)

แม้ขนาดรูขุมขนจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เราสามารถทำให้รูขุมขน "ดูเล็กลง" และเรียบเนียนขึ้นได้ เซรั่มประเภทนี้จะช่วยทำความสะอาดสิ่งที่อุดตันอยู่ภายใน, ควบคุมความมันซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของรูขุมขนกว้าง, และช่วยปรับสภาพผิวให้ดูตื้นและกระชับขึ้น

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), BHA, สารสกัดจากเห็ด (Mushroom Extract), วิชฮาเซล (Witch Hazel)

9. เซรั่มบำรุงรอบดวงตา (Eye Serum)

ผิวรอบดวงตานั้นบอบบางกว่าส่วนอื่นของใบหน้าและเกิดริ้วรอยได้ง่าย จึงต้องการการดูแลที่จำเพาะเจาะจง อายเซรั่มถูกออกแบบมาให้มีโมเลกุลเล็กและซึมซาบได้ดี เพื่อจัดการกับปัญหาริ้วรอยร่องเล็ก, รอยคล้ำจากอาการภูมิแพ้หรือการพักผ่อนน้อย, และช่วยลดอาการบวมของถุงใต้ตา

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : คาเฟอีน (Caffeine), เปปไทด์ (Peptides), เรตินอล (สูตรอ่อนโยน), วิตามินเค (Vitamin K)

10. เซรั่มวิตามินรวม (Multi-Vitamin Serum)

ประเภทของเซรั่ม

เป็นเซรั่มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เร่งรีบในปัจจุบัน โดยรวบรวมวิตามินที่จำเป็นต่อการบำรุงผิวหลายชนิดไว้ในขวดเดียว เช่น วิตามิน A, B, C, E เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าขาดการดูแลให้กลับมาแข็งแรงและสดใส เป็นการบำรุงแบบครบวงจรที่ใช้งานง่ายและสะดวก

  • ส่วนผสมหลักยอดนิยม : การผสมผสานวิตามิน A, B3, B5, C, E ในสัดส่วนที่เหมาะสม

สรุปบทความ

การเข้าใจความแตกต่างของเซรั่มแต่ละประเภทคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแท้จริง เมื่อคุณมีทิศทางที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากโรงงานผลิตครีมที่มีมาตรฐาน เพื่อพัฒนาสูตรเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ของคุณ

ที่มา : บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด
โพสต์ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์