เพลิดเพลินกับการเดินทางที่ทั้งสะดวกสบายและคุ้มค่า พร้อมสัมผัสทัศนียภาพหิมะขาวโพลนสวยงามของภูมิภาคโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น

โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - Media OutReach Newswire - 8 ธันวาคม 2025 - ญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว และหากใครที่อยากสัมผัสความงดงามของทัศนียภาพหิมะแบบเต็มอิ่ม ภูมิภาคโทโฮคุทางตอนเหนือของญี่ปุ่นคือจุดหมายที่เหมาะที่สุด โดยโทโฮคุจะมอบทิวทัศน์ที่ชวนตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่หมู่บ้านออนเซ็นบรรยากาศอบอุ่นที่ถูกโอบล้อมด้วยหิมะสีขาว ไปจนถึงบ้านไม้แบบดั้งเดิมที่เปี่ยมด้วยมนตร์เสน่ห์ เทือกเขาสูงสง่าที่ปกคลุมด้วยหิมะ และทุ่งกว้างที่ทอแสงระยิบระยับใต้แสงอาทิตย์ฤดูหนาว ภูมิภาคนี้สามารถเดินทางจากโตเกียวได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงด้วยรถไฟชินคันเซ็นของ JR East

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเดินทางในช่วงฤดูหนาวในพื้นที่ที่มีหิมะตก JR EAST PASS (Tohoku Area) คือคำตอบที่ช่วยให้เดินทางได้อย่างสบายใจไร้กังวล บัตรโดยสารนี้ให้คุณนั่งรถไฟในตู้โดยสารที่อบอุ่นโดยไม่ต้องห่วงสภาพถนนภายนอก และยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของวิวสีขาวเงินจากหน้าต่างรถไฟชินคันเซ็น ทำให้ช่วงเวลาที่ใช้ในการเดินทางกลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันหรูหรา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการเดินทางด้วยรถไฟ

ฤดูหนาวในปีนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากสามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นเพื่อไปสัมผัสทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของภูมิภาคโทโฮคุได้ และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวฤดูหนาว เราขอแนะนำแผนการท่องเที่ยวตัวอย่างที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ซึ่งจะพาคุณไปพบกับไฮไลต์ที่ดีที่สุดของโทโฮคุตามรายละเอียดด้านล่างนี้

เส้นทางเที่ยวชมภูมิทัศน์สีเงิน ประวัติศาสตร์ และบ่อน้ำพุร้อน (5 วัน 4 คืน)

วันที่ 1
ออกเดินทางจากสถานีโตเกียว โดยใช้รถไฟโทโฮคุชินคันเซ็น ไปยังสถานีโคริยามะ จังหวัดฟุกุชิมะ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที) จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปยังรถไฟสาย JR Banetsu West Line และเดินทางต่อไปยังสถานีไอซุ-วาคามัตสึ เมื่อถึงแล้ว สามารถเดินเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ปราสาทสึรุกะ และถนนนานุกะมาจิ ก่อนแวะไปที่โรงบ่มสาเกซุเอะฮิโระ เพื่อเข้าชมกระบวนการผลิตและร่วมชิมสาเก จากนั้นในช่วงค่ำ สามารถผ่อนคลายในบ่อออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ ณ ไอซุ ฮิกาชิยามะ ออนเซ็น

วันที่ 2
ออกเดินทางจากสถานีไอซุ-วาคามัตสึ โดยใช้รถไฟยามากาตะชินคันเซ็นไปยังสถานียามากาตะ (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) หลังจากเดินทางถึงแล้ว แนะนำให้แวะพักเหนื่อยที่ศูนย์การค้า S-PAL Yamagata ที่เชื่อมต่อกับสถานีโดยตรง ซึ่งมีสินค้าท้องถิ่นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผักดอง ขนมหวาน และอื่น ๆ จากนั้นเดินจากสถานีประมาณ 15 นาทีไปยังสวนคะโจ (Kajo Park) เพื่อชมบรรยากาศฤดูหนาวอันเงียบสงบของกำแพงหินและคูน้ำที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ต่อมาเดินทางจากสถานียามากาตะไปยังกินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ด้วยการต่อรถไฟยามากาตะชินคันเซ็นและรถบัส (ใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองออนเซ็นชื่อดังแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ บริเวณนี้จะมีที่พักอาคารไม้เรียงรายตามแนวแม่น้ำที่ให้กลิ่นอายยุคไทโชของญี่ปุ่น ซึ่งจะยิ่งสวยงามเป็นพิเศษในฤดูหนาวเมื่อหิมะขาวโพลนตัดกับแสงตะเกียงที่สร้างบรรยากาศชวนฝันทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต สำหรับมื้อกลางวัน สามารถลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อของท้องถิ่น เช่น โซบะ หรือเมนูจากเนื้อวัวสายพันธุ์ยามากาตะ และแนะนำให้พักค้างคืนภายในหมู่บ้านออนเซ็นนี้ด้วยจะดีที่สุด

วันที่ 3

ในช่วงเช้า ใช้เวลาเดินเล่นสบาย ๆ รอบกินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ซึมซับบรรยากาศอันเงียบสงบและชื่นชมทัศนียภาพสีขาวเงินของเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะอย่างงดงาม ในช่วงบ่าย เดินทางกลับไปยังสถานียามากาตะด้วยรถบัสและยามากาตะชินคันเซ็น จากนั้นต่อรถไฟ JR สายเซ็นซัน (Senzan Line) มุ่งหน้าสู่เมืองเซ็นได (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เมื่อเดินทางถึงแล้ว แนะนำให้ลองชิมอาหารชื่อดังของเซ็นได เช่น กิวทัง (ลิ้นวัวย่าง) และขนมซุนดะรสหวานหอมจากถั่วแระญี่ปุ่น สำหรับช่วงเย็น เดินทางไปยังซากปราสาทเซ็นได (ซากปราสาทอาโอบะ) เพื่อชมรูปปั้น ท่านดาเตะ มาซามุเนะ (Lord Date Masamune) บนหลังม้าที่ถูกประดับไฟอย่างงดงาม พร้อมดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองเซ็นไดแบบพาโนรามา นับเป็นช่วงเวลาฤดูหนาวที่ยากจะลืมเลือน

วันที่ 4

ออกเดินทางจากสถานีเซ็นไดโดยใช้รถไฟ JR สายเซ็นเซกิ (Senseki Line) ไปยังสถานีมัตสึชิมะ-ไคกัง (Matsushima-Kaigan) (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมื่อถึงมัตสึชิมะ ซึ่งเป็นหนึ่งใน "สามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น" แนะนำให้ล่องเรือชมวิวเพื่อสัมผัสกับหมู่เกาะที่ถูกหิมะฤดูหนาวปกคลุมอย่างละมุนตา นอกจากนี้ยังสามารถแวะชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) และ หอโกะไดโด (Godaidō Hall) จากนั้นรับประทานอาหารกลางวันที่กระท่อมขายหอยนางรมท้องถิ่น ซึ่งจะได้เพลิดเพลินไปกับหอยนางรมสดตามฤดูกาล

วันที่ 5

ออกเดินทางจากสถานีเซ็นไดโดยใช้รถไฟโทโฮคุชินคันเซ็นกลับสู่สถานีโตเกียว (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) สามารถเดินช้อปปิ้งในเมืองหลวงได้ตามอัธยาศัยเพื่อปิดท้ายทริปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเริ่มต้นที่ GRANSTA Tokyo หนึ่งในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ภายในสถานีรถไฟของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีโตเกียว ที่นี่เป็นศูนย์รวมร้านค้าหลากหลายประเภท ทั้งอาหารกูร์เมต์ ของฝาก และสินค้าน่าซื้อมากมายไว้ในที่เดียว

อีกทางเลือกที่เดินทางสะดวกไม่แพ้กันคือ atre Ueno ศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหารที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีอุเอโนะ และสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาโตเกียวแล้วไม่อยากพลาดแลนด์มาร์กสำคัญ ย่านกินซ่าก็เป็นสถานที่ที่ควรแวะไปเดินเลือกชมร้านขนมชื่อดัง และมองหาของฝากสุดประทับใจกลับบ้านได้

การเดินทางสุดเร้าใจท่ามกลางผืนป่าที่ถูกน้ำค้างแข็งโอบคลุม และบ่อน้ำพุร้อนลับกลางธรรมชาติ (5 วัน / 4 คืน)

วันที่ 1

ออกเดินทางจากสถานีโตเกียวโดยใช้รถไฟยามากาตะชินคันเซ็นไปยังสถานีอาคายุ (Akayu) (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที) เมื่อเดินทางถึงแล้ว แนะนำให้ไปสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาวของ Nanyo Winery ที่อยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลน และเดินเล่นชมเมืองออนเซ็นอาคายุ (Akayu Onsen) ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองพักแรมสำคัญบนเส้นทางคมนาคมเก่าแก่ ในช่วงเย็น ผ่อนคลายร่างกายที่บ่อน้ำพุร้อนอาคายุออนเซ็น ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 900 ปี พร้อมอิ่มอร่อยกับมื้อค่ำที่คัดสรรเมนูจากเนื้อวัวสายพันธุ์ยามากาตะและน้ำแร่ธรรมชาติอุ่น ๆ ที่ไหนมาจากแหล่งกำเนิด

วันที่ 2

เดินทางจากสถานีอาคายุไปยังสถานียามากาตะ (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) จากนั้นต่อรถบัสไปยังซาโอะออนเซ็น (Zao Onsen) (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) ในช่วงบ่าย นั่งกระเช้าไฟฟ้าซาโอะ (Zao Ropeway) ไปยังภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะเพื่อชม "จุเฮียว (Juhyo)" หรือที่รู้จักกันทั่วโลกในชื่อ "สโนว์มอนสเตอร์" หรือต้นไม้ที่ถูกน้ำค้างแข็งเกาะจับจนเกิดเป็นรูปร่างแปลกตาราวกับงานประติมากรรมตามธรรมชาติ ในช่วงเย็น เดินเล่นในเมืองซาโอะออนเซ็นเพื่อสัมผัสบรรยากาศฤดูหนาวอันแสนพิเศษที่เกิดจากไออุ่นของน้ำพุร้อนและแสงนุ่มละมุน

วันที่ 3

ในช่วงเช้า ออกเดินทางจากซาโอะออนเซ็นแบบสบาย ๆ แล้วไปเที่ยวชมตัวเมืองยามากาตะ แวะเที่ยวที่ Bunshokan (อาคารที่ทำการจังหวัดเดิม) สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่งดงาม ก่อนต่อด้วย Yamagata Marugoto-kan Beninokura แหล่งรวมอาหารท้องถิ่นและร้านค้าสำหรับช้อปปิ้ง ในช่วงบ่าย เดินทางด้วยยามากาตะชินคันเซ็นไปยังเมือง ชินโจ (Shinjo) (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของเมืองเล็กแสนน่ารักที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน และอย่าลืมลิ้มลองเมนูขึ้นชื่อประจำภูมิภาคอย่าง โทริโมสึราเม็ง (Torimotsu Ramen) ซึ่งเป็นเมนูโปรดของคนท้องถิ่น

วันที่ 4

ออกเดินทางจากเมืองชินโจโดยนั่งรถไฟสาย Ōu Main Line ไปยังสถานีอาคิตะ (Akita Station) (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) เมื่อถึงแล้วให้แวะไปที่ Akita Dog Station ซึ่งจะได้พบปะและถ่ายรูปกับสุนัขพันธุ์อาคิตะ โดยมีกิจกรรมพาสุนัขเดินเล่นที่สามารถจองล่วงหน้าได้ จากนั้นมุ่งหน้าไปยังเมืองโยโคเตะที่ Kamakura Hall สถานที่จัดแสดง "คามาคุระ" (กระท่อมหิมะ) ของจริงตลอดทั้งปี ให้คุณได้ซึมซับบรรยากาศและเสน่ห์ของเทศกาลหิมะโยโคเตะอันเป็นประเพณีท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด หลังเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ เสร็จแล้ว แนะนำให้กลับมายังบริเวณรอบสถานีอาคิตะเพื่อลิ้มลองอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ เช่น อินานิวะอุด้ง (Inaniwa Udon) และ คิริทันโปฮอตพอต (Kiritanpo Hot Pot)

วันที่ 5

ออกเดินทางจากสถานีอาคิตะโดยใช้รถไฟอาคิตะชินคันเซ็นกลับสู่สถานีโตเกียว (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที) ปิดท้ายทริปด้วยการการช้อปปิ้งที่ GRANSTA Tokyo ภายในสถานีโตเกียว หรือเลือกเดินเที่ยวย่านกินซ่าเพื่อหาซื้อของฝากและขนมอร่อย ๆ ได้เช่นกัน

ทัศนียภาพฤดูหนาวและเส้นทางบ่อน้ำพุร้อนสุดตระการตาที่เห็นได้เฉพาะช่วงฤดูหนาว

ด้านล่างนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำและข้อมูลการเดินทางที่อยู่ในแผนการท่องเที่ยวตัวอย่าง

เมืองไอซุ-วาคามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ

ไอซุ-วาคามัตสึเป็นเมืองปราสาทเก่าแก่ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์แบบดั้งเดิม ในฤดูหนาว ปราสาทสึรุกะและบ้านเรือนซามูไรรอบ ๆ จะถูกหิมะปกคลุมจนเกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะปราสาทที่มุงหลังคากระเบื้องสีแดงซึ่งตัดกับหิมะขาวบริสุทธิ์อย่างโดดเด่น กลายเป็นภาพฤดูหนาวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ย่านถนนเมืองเก่ายังคงรักษาบรรยากาศคลาสสิกไว้ได้อย่างดี และบนถนนนานุกะมาจิก็เหมาะสำหรับการเดินเล่นแบบสบาย ๆ มีทั้งคาเฟ่และร้านรวงเล็ก ๆ ให้แวะชมตลอดทาง นอกจากนี้ เมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องสาเกคุณภาพเยี่ยม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมทัวร์ชมโรงบ่มและชิมสาเกจากโรงผลิตที่เก่าแก่แห่งนี้ได้ ไอซุ-วาคามัตสึเป็นจุดหมายที่รวมทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหารการกินไว้ครบถ้วน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสแก่นแท้ของฤดูหนาวในโทโฮคุอย่างเต็มอิ่ม

• การเดินทาง (จากสถานีโตเกียว):：
  ‐สถานีโคริยามะ: ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 1 ชั่วโมง 13 นาที โดยรถไฟโทโฮคุชินกันเซ็น
  ‐สถานีไอสุ-วาคามัตสึ: ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที หลังจากเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Banetsu West Line

กินซังออนเซ็น จังหวัดยามากาตะ

กินซังออนเซ็นเป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนบรรยากาศเงียบสงบ โดยมีโรงเตี๊ยมไม้แบบดั้งเดิมตั้งเรียงรายตามริมสายน้ำ สร้างสรรค์ทัศนียภาพถนนที่ชวนให้หวนรำลึกถึงอดีต และจะยิ่งงดงามน่าหลงใหลเป็นพิเศษเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะ แสงอบอุ่นจากตะเกียงช่วยเสริมให้บรรยากาศฤดูหนาวดูมหัศจรรย์เหมือนฝัน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการดื่มด่ำกับทิวทัศน์หิมะอย่างเงียบสงบ โรงเตี๊ยมหลายแห่งมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งให้บริการ ทำให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสกับประสบการณ์ ยูกิมิ โรเท็นบุโระ (Yukimi Rotenburo) หรือการแช่น้ำพุร้อนอุ่น ๆ พร้อมชื่นชมทิวทัศน์สีขาวเงินของฤดูหนาวไปพร้อมกัน

• การเดินทาง (จากสถานีโตเกียว):

- สถานีโอะอิชิดะ (Ōishida Station): เร็วที่สุดประมาณ 2 ชั่วโมง 53 นาที โดยรถไฟยามากาตะชินคันเซ็น
- กินซังออนเซ็น: จากสถานีโอะอิชิดะ นั่งรถบัสของเมืองโอะบานาซาวะ (Obanazawa City) ประมาณ 40 นาที

เซ็นได: ซากปราสาทเซ็นได

ซากปราสาทเซ็นได (Sendai Castle Ruins) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ซากปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle Ruins) ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นตัวเมือง เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมในฤดูหนาวเพราะอากาศหนาวและท้องฟ้าปลอดโปร่ง ช่วยให้มองเห็นทัศนียภาพของเมืองเซ็นไดได้สุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีฟ้าเข้มในฤดูหนาว ผสานกับแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องแสงอ่อน ๆ ที่อยู่เบื้องหลังรูปปั้นท่านดาเตะ มาซามุเนะ นั่งอยู่บนหลังม้าอันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างความงดงามและทรงพลัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพเก็บความประทับใจ นอกจากบรรยากาศทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงความขลังไว้ผ่านกำแพงหินและร่องรอยของปราสาทแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ในแบบฉบับของเซ็นได เมืองที่ได้รับฉายาว่า "เมืองแห่งต้นไม้" ได้อย่างเต็มอิ่ม ในช่วงเย็น พื้นที่โดยรอบจะมีการประดับไฟสว่างไสว เผยให้เห็นภาพตัดกันอย่างน่าอัศจรรย์ระหว่างแสงระยิบระยับของเมืองกับเงารูปปั้นท่านมาซามุเนะที่โดดเด่นสง่างาม จุดชมวิวแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่ผสานทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ทัศนียภาพ และบรรยากาศเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และนับเป็นหนึ่งในจุดหมายฤดูหนาวที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของจังหวัดมิยางิ

• การเดินทาง (จากสถานีเซนได)：

- ซากปราสาทเซ็นได: ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยรถบัสประจำทางภายในเมือง หรือประมาณ 15 นาที หากเดินทางโดยแท็กซี่


มัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ

มัตสึชิมะเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชมทัศนียภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ในฤดูหนาว อากาศที่หนาวเย็นและปลอดโปร่งจะยิ่งช่วยขับให้ภาพของต้นไม้และหมู่เกาะที่ถูกหิมะปกคลุมดูงดงามชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสเสน่ห์ของฤดูหนาวแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องหอยนางรมตามฤดูกาล ทำให้แขกผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินทั้งทัศนียภาพฤดูหนาวอันตระการตาและรสชาติอาหารท้องถิ่นที่อร่อยเป็นพิเศษ นับเป็นประสบการณ์ที่หาได้เฉพาะช่วงเวลานี้ของปีเท่านั้น

• เวลาทำการ (ล่องเรือชมวิว): 9:00–15:00 น. (ช่วงฤดูหนาว)
• การเดินทาง (จากสถานีโตเกียว):

- สถานีเซ็นได: เร็วที่สุดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟโทโฮคุชินคันเซ็น
- สถานีมัตสึชิมะ-ไคกัง (Matsushima-Kaigan): ประมาณ 40 นาที โดยรถไฟ JR สายเซ็นเซกิ (Senseki Line)
- มัตสึชิมะ: เดินจากสถานีมัตสึชิมะ-ไคกังประมาณ 10 นาที

เมืองออนเซ็นอาคายุ จังหวัดยามากาตะ

อาคายุออนเซ็นเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีประวัติยาวนานกว่า 900 ปี มีความโดดเด่นด้วยน้ำแร่ธรรมชาติที่ไหลจากต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบรรยากาศแบบสมัยโบราณ ในฤดูหนาว เมืองทั้งเมืองจะถูกโอบล้อมด้วยหิมะขาวโพลน ไอน้ำอุ่นที่ลอยขึ้นตามท้องถนนสีขาวเงินจะช่วยแต่งเติมภาพบรรยากาศสวยงามชวนย้อนให้คิดถึงอดีต ที่พักในท้องถิ่นมีบ่อน้ำพุร้อนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "น้ำแร่เพื่อความงาม" ด้วยสัมผัสของน้ำที่นุ่มละมุนและอ่อนโยนต่อผิว ผู้เข้าพักสามารถแช่น้ำอุ่นในบ่อกลางแจ้งพร้อมชมทิวทัศน์ฤดูหนาวอันเงียบสงบ และผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ บริเวณโดยรอบยังมีทั้งโรงบ่มไวน์และร้านอาหารที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นเมนูน่าลิ้มลอง ทำให้อาคายุเป็นจุดหมายที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้เวลาแบบสโลว์ไลฟ์เพื่อดื่มด่ำทั้งออนเซ็น อาหาร และช่วงเวลาพักผ่อนที่สงบและเรียบง่าย

• การเดินทาง（จากโตเกียว）：

- สถานีอาคายุ: ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 2 ชั่วโมง 18 นาที โดยรถไฟยามากาตะชินกันเซ็น
- ตัวเมืองออนเซ็นอาคายุ: เดินจากสถานีอาคายุประมาณ 25 นาที หรือเลือกนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที

ซาโอะ (จังหวัดยามากาตะ)

ฤดูหนาวที่ซาโอะถือเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ในโลกที่จะได้พบกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์อย่าง "จูเฮียว" (Juhyo) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ปีศาจหิมะ" ซึ่งเกิดจากต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะจนเกิดเป็นรูปร่างแปลกตา วิวจากกระเช้าเมื่อมองลงมายังเหล่าต้นไม้ที่ถูกเคลือบขาวโพลนด้วยหิมะมีความอลังการและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

บริเวณนี้ยังมีรีสอร์ตออนเซ็นหลายแห่งให้แขกผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับ ยูกิมิ โรเท็นบุโระ หรือ การแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งพร้อมชมทิวทัศน์หิมะตกแบบใกล้ชิด ซึ่งเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่ไม่ควรพลาด

เวลาให้บริการ (กระเช้า): 8:30–17:00 น. (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
การเดินทาง (จากสถานีโตเกียว):
- สถานียามากาตะ: ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 2 ชั่วโมง 22 นาที โดยรถไฟยามากาตะชินกันเซ็น
- สถานีรถบัสซาโอะออนเซ็น: นั่งรถบัส Yamako Bus จากสถานียามากาตะประมาณ 40 นาที
- ซาโอะออนเซ็น: เดินจากสถานีรถบัสซาโอะออนเซ็นประมาณ 5 นาที

ให้การเดินทางคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิมด้วย 『JR EAST PASS（Tohoku area）』

บัตรโดยสาร JR EAST PASS (Tohoku Area) มอบความคุ้มค่าให้ผู้เดินทางด้วยสิทธิ์นั่งรถไฟไม่จำกัดเป็นเวลา 5 วัน (หรือ 10 วัน) ภายในพื้นที่ที่กำหนดของเครือข่ายรถไฟ JR East รวมถึงรถไฟโทโฮคุชินกันเซ็น, รถด่วนพิเศษ (Limited Express) และรถไฟท้องถิ่น ผู้ถือพาสนี้สามารถเดินทางได้ฟรีในพื้นที่ระหว่างโตเกียวกับเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคโทโฮคุตลอดช่วงเวลาที่บัตรยังไม่หมดอายุ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวในฤดูหนาวอย่างสะดวกสบายและประหยัดค่าเดินทาง JR EAST PASS (Tohoku Area) จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุด

【คุ้มค่า】	บัตรโดยสารพิเศษสำหรับชาวต่างชาติ มอบความคุ้มค่ามากกว่าการซื้อบัตรโดยสารปกติในประเทศญี่ปุ่น
【เดินทางไม่จำกัด】	ใช้เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในระยะเวลา 5 วัน (หรือ 10 วัน) ตามช่วงวันใช้งานที่กำหนดบนเส้นทางของ JR East ในพื้นที่ที่ระบุไว้ ซึ่งรวมถึงรถไฟชินคันเซ็น รถด่วนพิเศษของรถไฟเอกชนบางแห่ง และรถบัสของ JR บางเส้นทาง
【จองง่าย】	ซื้อผ่านทางออนไลน์ได้สะดวก สามารถจัดการบัตรและสำรองที่นั่งผ่านระบบ JR-EAST Train Reservation หลังจากซื้อบัตรโดยสารแล้ว สามารถไปรับได้ง่าย ๆ ที่ตู้จำหน่ายบัตรและจุดรับบัตร JR East ที่ระบุไว้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ JR East:
https://www.jreast.co.jp/th/multi/pass/eastpass_t.html

ฤดูหนาวในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นคือช่วงเวลาที่พลังและความงดงามของธรรมชาติเปล่งประกายที่สุด ด้วยความสะดวกสบายและความเชื่อถือของรถไฟชินกันเซ็น ผสานกับความคุ้มค่าของ JR EAST PASS ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามในฤดูหนาวเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและคุ้มค่า การผจญภัยในฤดูหนาวที่ไม่มีวันลืมไปอีกนานกำลังรอให้คุณออกไปสัมผัสอยู่

Hashtag: #JREast

The issuer is solely responsible for the content of this announcement.