ไฟฟ้าโรงงานใช้แบบไหน ต้องคำนึงอะไรบ้างก่อนติดตั้ง

การเลือกระบบไฟฟ้าสำหรับโรงงานถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญและส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตโดยตรง เพราะระบบไฟฟ้าโรงงานที่เหมาะสมจะช่วยให้การดำเนินงานราบรื่น ลดต้นทุน และรับประกันความปลอดภัยในการทำงาน หากคุณกำลังวางแผนติดตั้งหรือปรับปรุงระบบไฟฟ้าในโรงงาน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงประเภทระบบไฟฟ้าที่เหมาะสม และสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนการติดตั้ง

ไฟฟ้าโรงงานคืออะไร

ไฟฟ้าโรงงาน หมายถึงระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างจากไฟฟ้าในบ้านเรือนทั่วไป ด้วยการมีกำลังไฟฟ้าสูง ความเสถียร และสามารถทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ระบบไฟฟ้าประเภทนี้ต้องรองรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น มอเตอร์ เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ และอุปกรณ์ผลิตต่าง ๆ ที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูง โดยมักใช้ระบบ 3 เฟสเป็นหลัก เนื่องจากสามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าได้มากกว่าระบบเฟสเดียว และมีความสมดุลของโหลดที่ดีกว่า

ประเภทระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม

ในประเทศไทย ระบบไฟฟ้าโรงงานมีการใช้งานหลักอยู่ 2 รูปแบบ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความต้องการของโรงงานแต่ละแห่ง

ระบบไฟ 3 เฟส 380V

ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 380V เป็นระบบที่ใช้สายไฟ 3 เส้น ไม่มีสายนิวทรัล โดยมีแรงดันระหว่างสายไฟแต่ละคู่เท่ากับ 380 โวลต์ ระบบนี้เหมาะสำหรับโรงงานที่ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เป็นหลัก เช่น มอเตอร์ 3 เฟส เครื่องจักรผลิต และอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟฟ้าสูง ข้อดีสำคัญคือสามารถจ่ายพลังงานได้มาก ลดการสูญเสียไฟฟ้าในสายส่ง และทำให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปที่ต้องการแรงดัน 220V ได้โดยตรง จึงอาจต้องติดตั้งหม้อแปลงเพิ่มเติม

ระบบไฟ 3 เฟส 4 สาย 380/220V

ระบบไฟ 3 เฟส 4 สาย 380/220V เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด ประกอบด้วยสายเฟส 3 เส้น และสายนิวทรัล 1 เส้น ทำให้สามารถใช้ได้ทั้งแรงดัน 380V สำหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ และ 220V สำหรับอุปกรณ์ทั่วไป เช่น เครื่องใช้สำนักงาน ระบบแสงสว่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำวัน ระบบนี้เป็นที่นิยม เพราะตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลาย ทั้งงานอุตสาหกรรมและงานทั่วไป แต่ต้องมีการออกแบบให้โหลดสมดุลระหว่างเฟส และอาจมีต้นทุนการติดตั้งสูงกว่าเนื่องจากใช้สายไฟมากขึ้น

สิ่งที่ควรคำนึง ก่อนติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงาน

การติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานเป็นงานที่ซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญ เพราะส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินงาน ความปลอดภัย และต้นทุนของโรงงาน ดังนั้น ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญต่อไปนี้

1. การวิเคราะห์ความต้องการใช้ไฟฟ้า ต้องคำนวณโหลดไฟฟ้าทั้งปัจจุบันและอนาคตอย่างแม่นยำ เพื่อเลือกขนาดสายไฟ หม้อแปลง และอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม รวมถึงการวางแผนเส้นทางสายไฟและตำแหน่งแผงควบคุมให้สะดวกต่อการบำรุงรักษาและขยายระบบ
2. ประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบ ระบบไฟฟ้าต้องสามารถรองรับการทำงานของเครื่องจักรได้เต็มประสิทธิภาพ มีความเสถียรในการจ่ายไฟ และลดการสูญเสียพลังงาน เพื่อให้กระบวนการผลิตดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและประหยัดค่าใช้จ่าย
3. มาตรฐานความปลอดภัย ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและมาตรฐานสากล โดยติดตั้งระบบป้องกันไฟรั่ว ระบบสายดิน อุปกรณ์ป้องกันลัดวงจร และมีการตรวจสอบระบบเป็นประจำทุกปี
4. การบริหารจัดการพลังงาน ควรมีระบบตรวจวัดและควบคุมการใช้พลังงาน เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ต้นทุน ลดการสิ้นเปลืองไฟฟ้า และวางแผนการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุปบทความ

การเลือกระบบไฟฟ้าโรงงานที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความต้องการของแต่ละโรงงาน ระบบ 3 เฟส 4 สาย 380/220V มีความยืดหยุ่นสูงและเป็นที่นิยม ส่วนระบบ 3 เฟส 380V เหมาะสำหรับโรงงานที่ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เป็นหลัก การติดตั้งต้องคำนึงถึงความต้องการใช้ไฟฟ้า ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการบริหารพลังงาน เพื่อให้ได้ระบบที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

ที่มา : บริษัท ทีต้า อินเตอร์เทรด จำกัด
โพสต์ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์