ทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์บ้าน เปลี่ยนภาระให้เป็นโอกาส
การผ่อนบ้านคือภาระทางการเงินก้อนใหญ่ที่อยู่กับเราไปหลายสิบปี แต่รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถ “เปลี่ยนภาระให้เป็นโอกาส” ได้ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านซึ่งเป็นวิธีปรับโครงสร้างหนี้กู้ซื้อบ้านให้เหมาะสมกับสภาพการเงินปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย ผ่อนสบายขึ้น หรือบริหารเงินสดหมุนเวียนให้คล่องตัวกว่าเดิม การรีไฟแนนซ์จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการลดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นโอกาสในการวางแผนอนาคตทางการเงินได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย
รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร?
การรีไฟแนนซ์บ้านคือการกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่เพื่อชำระหนี้สินเดิมที่มีอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการได้อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ต่ำลง หรือปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระให้ครอบคลุมความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้กู้
การรีไฟแนนซ์ที่ดีนั้นสามารถช่วยให้ลดภาระดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านในระยะเวลาผ่อนชำระได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างเช่น การย้ายมาใช้บริการที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกลง อาจทำให้งวดผ่อนลดลง และยังช่วยให้เป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น ผ่อนบ้านหมดไวขึ้น และลดภาระค่าใช้จ่ายโดยรวมได้อีกด้วย
เหตุผลที่ควรพิจารณาธนาคารกรุงไทย ในการรีไฟแนนซ์บ้าน
ธนาคารกรุงไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน ด้วยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ที่มาพร้อมดอกเบี้ยปีแรกคงที่ เริ่มต้นเพียง 1.99% ต่อปี และเงื่อนไขพิเศษที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้กู้ในทุกกลุ่ม
จุดเด่นที่น่าสนใจของการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารกรุงไทยมีอะไรบ้าง?
- อัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ของกรุงไทยเสนอดอกเบี้ยปีแรกคงที่ เริ่มต้น 1.99% ต่อปี ซึ่งช่วยลดภาระการผ่อนชำระในช่วงแรก โดยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญาอยู่ระหว่าง 4.91% - 5.23% ต่อปี* (ณ วันที่ 15 ส.ค. 68)
- วงเงินกู้ที่ยืดหยุ่น ผู้กู้สามารถขอกู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน หรือไม่เกินยอดหนี้คงเหลือครั้งนี้ ทำให้ผู้กู้สามารถนำเงินส่วนเกินไปใช้ในการปรับปรุงบ้านหรือใช้จ่ายอื่น ๆ ได้อย่างคุ้มค่า
- ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาว มีระยะเวลากู้สูงสุด 40 ปี ให้ความยืดหยุ่นในการวางแผนการเงินระยะยาว และช่วยลดภาระการผ่อนชำระรายเดือน
- กระบวนการอนุมัติที่รวดเร็ว ธนาคารกรุงไทยมีระบบอนุมัติที่ไว ช่วยให้ผู้สมัครได้รับการพิจารณาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ความสะดวกในการสมัคร สามารถสมัครได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | *สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MLR = 6.50% ต่อปี (ณ วันที่ 15 ส.ค. 68) รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูที่ www.krungthai.com | อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ | เงื่อนไขและหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน ตั้งแต่เริ่มจนจบ
- ตรวจสอบสัญญาเดิมและยอดหนี้ เริ่มต้นจากการตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาปัจจุบัน ว่ายอดหนี้เหลืออยู่เท่าไร และเงื่อนไขผ่อนชำระเป็นอย่างไร
- เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ เอกสารที่จำเป็นเช่น บัตรประชาชน, สลิปเงินเดือน, และเอกสารอื่น ๆ ที่ธนาคารกำหนด
- ติดต่อธนาคารใหม่และประเมินหลักประกัน สอบถามเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์จากธนาคารใหม่ และส่งเอกสารเพื่อประเมินหลักประกัน
- กระบวนการอนุมัติและทำสัญญาใหม่ รอการอนุมัติจากธนาคาร และทำการเซ็นสัญญาใหม่ การโอนจำนองและปิดบัญชีเดิม หลังจากเซ็นสัญญาใหม่แล้วให้โอนจำนองและชำระหนี้ที่มีอยู่เพื่อยุติสัญญาเดิม
ค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้ และปัจจัยเปรียบเทียบก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์มีค่าใช้จ่ายหลักที่ควรทราบ เช่น ค่าประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์, ค่าธรรมเนียมการจดจำนองใหม่, และเบี้ยปรับที่อาจเกิดขึ้นในการชำระก่อนกำหนด การคำนวณจุดคุ้มทุนว่าอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านใหม่ต้องต่ำกว่าเดิมเท่าไร เพื่อให้การรีไฟแนนซ์คุ้มค่าภายในระยะเวลาที่ยอมรับได้
เคล็ดลับและข้อควรระวัง ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์
ควรพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน เช่น ในช่วงที่ดอกเบี้ยตลาดลดลง นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างการรีไฟแนนซ์และการรีเทนชั่น ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารหลายแห่ง และต้องจำไว้ว่าการรีไฟแนนซ์บ่อยครั้งอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
ปัญหาที่พบบ่อย และทางออกเมื่อรีไฟแนนซ์ไม่ผ่าน
การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์ แต่ก็มีความเสี่ยง การเตรียมความพร้อมและการศึกษาข้อมูลในเรื่องนี้ให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ หากธนาคารปฏิเสธการรีไฟแนนซ์ อาจมาจากเหตุผลหลายประการ เช่น เครดิตไม่ดี หรือเอกสารไม่ครบถ้วน ควรมีแผนสำรอง และปรับตัวตามสถานการณ์ เช่น การปรับลดยอดหนี้เดิมหรือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน
การรีไฟแนนซ์บ้านไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีความรู้และเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนภาระหนี้ให้เป็นโอกาสใหม่ๆ ในการเงินของเราได้
ที่มา : บมจ. ธนาคารกรุงไทย
โพสต์ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
แสดงความเห็น