เงินฝากประจำดอกเบี้ยสูงธนาคารกรุงไทย ทางเลือกออมเงินที่คุ้มค่า

เงินฝากประจำดอกเบี้ยสูงธนาคารกรุงไทย ทางเลือกออมเงินที่คุ้มค่า

ออมเงินอย่างมั่นคงด้วยเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูงจากธนาคารกรุงไทย ทางเลือกที่ฉลาดและปลอดภัยสำหรับใครที่อยากให้เงินออมงอกเงยแบบคุ้มค่าในทุกวัน ผ่านอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่สูงกว่าบัญชีทั่วไป พร้อมเงื่อนไขยืดหยุ่นให้คุณเลือกระยะเวลาฝากที่เหมาะกับเป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะต้องการวางแผนระยะสั้นหรือสะสมเงินในระยะยาว ตัวเลือกนี้ช่วยให้การออมกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ได้ผลตอบแทนจริง เปลี่ยนเงินที่มีให้เติบโตอย่างมั่นใจในทุกก้าวของอนาคตให้ฉลาดและมั่นคงยิ่งขึ้น

ทำความรู้จักเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง

เงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์การออมเงินที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าธนาคารกรุงไทยมาก ด้วยความเป็นวิธีการออมเงินที่มอบผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ ธนาคารกรุงไทยเข้าใจดีถึงความต้องการของลูกค้าในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่นักออมมือใหม่ไปจนถึงนักลงทุนมากประสบการณ์

ความพิเศษของเงินฝากประจำธนาคารกรุงไทย

  • ผลตอบแทนที่มั่นคง อัตราดอกเบี้ยแน่นอนตลอดระยะเวลาการฝาก ไม่มีความผันผวนตามตลาด
  • ระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ความน่าเชื่อถือจากธนาคารพาณิชย์ของรัฐที่มีประวัติการดำเนินงานมายาวนาน
  • หลากหลายทางเลือก มีระยะเวลาการฝากตั้งแต่ระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว เหมาะกับเป้าหมายการเงินที่แตกต่างกัน

เมื่อเปรียบเทียบกับเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป ลูกค้าจะพบว่าเงินฝากประจำให้ผลตอบแทนสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่บัญชีออมทรัพย์มุ่งเน้นความสะดวกในการเข้าถึงเงิน บัญชีเงินฝากประจำจึงเน้นการสร้างผลตอบแทนสูงสุดจากเงินออม

สำหรับทางเลือกการออมอื่นๆ เช่น การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ กองทุนรวม หรือการออมในรูปแบบคริปโตเคอร์เรนซี ล้วนมีความเสี่ยงที่สูงกว่า บัญชีเงินฝากประจำของธนาคารกรุงไทยจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและไม่ต้องการเสี่ยงกับเงินต้น

อัปเดตอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปี 2568 ที่น่าสนใจ

ธนาคารกรุงไทยมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากดอกเบี้ยสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดการเงินและนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย

การเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย

ธนาคารกรุงไทยเปิดโอกาสให้ลูกค้าเริ่มต้นการออมด้วยเงินจำนวนไม่มาก โดยมีเงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การออมที่มีคุณภาพได้

ระยะเวลาการฝากมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลาย เริ่มตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 18 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน โดยยิ่งฝากนานก็ยิ่งได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามลำดับ

อัตราดอกเบี้ยในปี 2568 อยู่ในช่วง 1.5% - 2.8% ต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการฝากและจำนวนเงินฝาก ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่แข่งขันได้ในตลาดการเงินปัจจุบัน

สิ่งสำคัญที่ลูกค้าควรทราบ

ธนาคารกรุงไทยมักจะมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าในช่วงเวลาต่างๆ ลูกค้าควรติดตามข่าวสารจากธนาคารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่พลาดโอกาสดีๆ ในการได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ

การอ่านเงื่อนไขของโปรโมชันอย่างละเอียดเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากบางโปรโมชันอาจมีข้อกำหนดเฉพาะ เช่น สำหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น หรือต้องมียอดเงินฝากรวมในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ได้ทุกเวลา เพื่อให้เข้าใจต้นทุนที่แท้จริงของการออมเงิน

เงินฝากประจำปลอดภาษี ความคุ้มค่าที่แท้จริง

เงินฝากประจำปลอดภาษี ความคุ้มค่าที่แท้จริง

ธนาคารกรุงไทยเสนอทางเลือกเงินฝากประจำแบบปลอดภาษีที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนเต็มจำนวนโดยไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย

หลักการของระบบปลอดภาษีคือการที่ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยเต็มจำนวนตามที่ตกลงไว้ โดยไม่มีการหักภาษี 15% ตามปกติ ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับเพิ่มขึ้นทันที

การคำนวณผลตอบแทนจริง

ตัวอย่างการฝากเงิน 50,000 บาท ทุกเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี (คำนวณโดยประมาณ)

  • เดือนที่ 1 : ฝากเงิน 50,000 = เงินฝาก 50,000 บาท x ((2.6/100)/365) x 30 วัน = ได้รับดอกเบี้ย 143.84 บาท
  • เดือนที่ 2 : ฝากเงิน 50,000 = เงินฝาก 100,000 บาท x ((2.6/100)/365) x 30 วัน = ได้รับดอกเบี้ย 287.67 บาท
  • เดือนที่ 3 : ฝากเงิน 50,000 = เงินฝาก 150,000 บาท x ((2.6/100)/365) x 30 วัน = ได้รับดอกเบี้ย 431.51 บาท

เมื่อคำนวณดอกเบี้ยจนถึงเดือนที่ 12 จะได้รับดอกเบี้ยรวม 11,219.18 บาท ซึ่งจะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1,682.88 บาท (คำนวณโดยประมาณ) ทำให้ได้รับดอกเบี้ยเต็มจำนวน ซึ่งเท่ากับได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 15% โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม

ข้อได้เปรียบหลักของระบบปลอดภาษี

  • ผลตอบแทนสูงขึ้นทันที โดยไม่ต้องรอการคืนภาษีหรือการหักลดหย่อนในปีถัดไป ลูกค้าได้รับเงินดอกเบี้ยเต็มจำนวนตั้งแต่วันที่ได้รับดอกเบี้ย
  • ลดความซับซ้อนในการจัดทำบัญชีและยื่นภาษีส่วนบุคคล เนื่องจากไม่ต้องนำดอกเบี้ยมาคำนวณรวมกับรายได้อื่น
  • เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีรายได้สูงและอยู่ในเกณฑ์เสียภาษีในอัตราสูง การประหยัดภาษีจากดอกเบี้ยจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ

กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

  • ผู้มีรายได้ประจำที่มั่นคงเกิน 300,000 บาทต่อปี จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบปลอดภาษี เนื่องจากจะประหยัดภาษีได้มากกว่าผู้มีรายได้น้อยกว่า
  • นักลงทุนที่ต้องการความเรียบง่ายและไม่ต้องการติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างใกล้ชิด เงินฝากประจำปลอดภาษีเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
  • ผู้ที่วางแผนการเงินระยะยาวและต้องการความแน่นอนในผลตอบแทน สามารถคำนวณและวางแผนการใช้เงินในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

ทำไมควรเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงไทย

ความน่าเชื่อถือและปลอดภัย

  • ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเงินฝากจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ภายใต้ระบบประกันเงินฝากของสถาบันคุ้มครองเงินฝากสูงสุด 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
  • มีความเป็นไปได้น้อยที่จะสูญเสียเงินลงทุนเหมือนการลงทุนในรูปแบบอื่น

ผลตอบแทนที่สามารถวางแผนได้

  • ลูกค้าทราบจำนวนเงินดอกเบี้ยที่จะได้รับแน่นอนตั้งแต่วันที่เปิดบัญชี ช่วยในการวางแผนการเงินส่วนตัวและการตัดสินใจลงทุนในโครงการอื่น
  • สามารถคำนวณกระแสเงินสดในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการวางแผนซื้อบ้าน การศึกษาบุตร หรือการเกษียณอายุ

การเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่น

  • เมื่อเทียบกับกองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมให้ความยืดหยุ่นในการซื้อขายสูงกว่า และอาจให้ผลตอบแทนสูงกว่าในบางช่วงเวลา แต่มีความเสี่ยงจากการผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุน
  • เปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นหรือ ETF แม้ว่าจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่ามาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้เช่นกัน เงินฝากประจำจึงเหมาะกับส่วนของการลงทุนที่ต้องการความมั่นคงเป็นหลัก
  • พันธบัตรรัฐบาลมีความปลอดภัยใกล้เคียงกับเงินฝากประจำ แต่ราคาในตลาดรองอาจผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ทำให้อาจมีกำไรหรือขาดทุนจากส่วนต่างราคาได้

วิธีเลือกระยะเวลาการฝากที่เหมาะสมกับบัญชี

การเลือกระยะเวลาการฝากเงินที่เหมาะสมกับบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงของธนาคารกรุงไทยต้องอาศัยการวิเคราะห์เป้าหมายการเงินอย่างรอบคอบ

  • ระยะเวลา 6 เดือน เหมาะสำหรับเงินที่เตรียมไว้สำหรับการใช้จ่ายในระยะสั้น เช่น เงินสำหรับการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเทศกาล การเดินทางท่องเที่ยวที่วางแผนไว้ หรือเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่ต้องการผลตอบแทนดีกว่าบัญชีออมทรัพย์
  • ระยะเวลา 12 เดือน เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักออมทั่วไป เหมาะกับการวางแผนการเงินประจำปี การออมเงินโบนัสหรือเงินสิ้นปี หรือการเตรียมเงินสำหรับการซื้อสินทรัพย์ขนาดกลาง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ระยะเวลา 24 เดือน เหมาะสำหรับเป้าหมายระยะกลาง เช่น การเก็บเงินเพื่อดาวน์บ้าน การแต่งงาน หรือการเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ระยะเวลานี้ให้ความสมดุลระหว่างผลตอบแทนที่ดีและความยืดหยุ่นที่ยอมรับได้
  • ระยะเวลา 36 เดือน เหมาะสำหรับการออมระยะยาว เช่น การเตรียมเงินเพื่อการศึกษาของบุตร การสร้างฐานการเงินสำหรับการเกษียณ หรือการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่

เทคนิคการเปรียบเทียบและเลือกสรร

  • ลูกค้าควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจริงที่จะได้รับหลังหักภาษีและค่าธรรมเนียม ไม่ใช่เพียงแค่อัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้
  • การพิจารณาวิธีการจ่ายดอกเบี้ยก็มีความสำคัญ การจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนจะช่วยให้มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ในขณะที่การจ่ายรวมเมื่อครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยเป็นเงินก้อน
  • การศึกษาเงื่อนไขการต่ออายุอัตโนมัติเป็นสิ่งสำคัญ ลูกค้าควรรู้ว่าหากไม่มาดำเนินการใดๆ เมื่อครบกำหนด เงินฝากจะได้รับการต่ออายุด้วยอัตราใด

การกระจายความเสี่ยงผ่านการเปิดหลายบัญชี

การแบ่งเงินออมออกเป็นหลายส่วนและฝากในระยะเวลาที่แตกต่างกัน เช่น 25% ในระยะ 6 เดือน 35% ในระยะ 12 เดือน 25% ในระยะ 24 เดือน และ 15% ในระยะ 36 เดือน

วิธีนี้ช่วยให้มีเงินครบกำหนดเป็นระยะ สามารถนำไปลงทุนใหม่ในอัตราที่ดีกว่าหากตลาดมีการปรับตัว หรือใช้เป็นเงินสำรองหากมีความจำเป็น

ลดความเสี่ยงจากการที่อัตราดอกเบี้ยอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต และเพิ่มโอกาสในการใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในอนาคต

การสร้างวินัยและระบบการออมที่ยั่งยืน

การสร้างวินัยและระบบการออมที่ยั่งยืน

การกำหนดเป้าหมายและการจัดสรรเงิน

ระบบการจัดสรรเงินแบบ 60/20/20 ที่ธนาคารกรุงไทยแนะนำ คือ 60% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 20% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวและความบันเทิง และ 20% สำหรับการออมและลงทุน

ในส่วนของการออม 20% นี้ ควรแบ่งเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน 5% เงินฝากประจำ 10% และการลงทุนอื่นๆ 5% เพื่อให้มีความสมดุลระหว่างความปลอดภัยและโอกาสในการเติบโต

การตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น ออมเงิน 10,000 บาทใน 3 เดือน เป้าหมายระยะกลาง เช่น มีเงินฝากประจำ 100,000 บาทใน 1 ปี และเป้าหมายระยะยาว เช่น สร้างเงินออม 1 ล้านบาทใน 5 ปี

เทคนิคการบริหารงบประมาณ

การใช้แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ในการติดตามรายรับ-รายจ่าย และตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดการฝากเงินประจำ

วิธีการ “จ่ายตัวเองก่อน” โดยการตั้งเป้าฝากเงินประจำทันทีที่ได้รับเงินเดือน ก่อนที่จะใช้จ่ายในเรื่องอื่น เทคนิคนี้ช่วยให้มั่นใจว่าจะมีเงินออมเป็นประจำทุกเดือน

การทบทวนและปรับแผนการออมทุก 3 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของรายได้และค่าใช้จ่าย

การติดตามและตรวจสอบผลการดำเนินงาน

  • การใช้ Mobile Banking ของธนาคารกรุงไทยในการตรวจสอบยอดเงินฝากและดอกเบี้ยที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอ
  • การเก็บรักษาเอกสารสำคัญ เช่น สัญญาเงินฝากประจำ หลักฐานการฝากเงิน และหนังสือรับรองยอดเงินฝาก ไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้ง่าย
  • การวางแผนล่วงหน้าสำหรับวันครบกำหนดของเงินฝากแต่ละบัญชี เพื่อตัดสินใจว่าจะต่ออายุ ถอนเงิน หรือโอนไปลงทุนในรูปแบบอื่น
  • การประเมินผลการออมเป็นประจำทุกปี เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เงินฝากประจำดอกเบี้ยสูงของธนาคารกรุงไทย เป็นมากกว่าแค่การออมเงิน แต่เป็นการสร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต ด้วยระบบการบริการที่ครบครัน ความน่าเชื่อถือ และผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับทุกกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความมั่นคงทางการเงิน

เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ที่มา : บมจ. ธนาคารกรุงไทย
โพสต์ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์
เผยแพร่ : พีอาร์ นิวส์ ไทยแลนด์